เมนู

9. ญาณสูตร



พระพุทธเจ้าเจริญอิทธิบาท 4



[1119] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสง
สว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมที่เราไม่เคยได้ฟังมาก่อนว่า นี้เป็นอิทธิ-
บาทอันประกอบด้วยฉันทสมาธิและปธานสังขาร.. อิทธิบาทอันประกอบด้วย
ฉันทสมาธิและปธานสังขารนี้นั้นแล อันเราควรเจริญ . . . อิทธิบาทอันประกอบ
ด้วยฉันทสมาธิและปธานสังขารนั้นนี้แล อันเราเจริญแล้ว .
[1120] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสง
สว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมที่เราไม่เคยได้ฟังมาก่อนว่า นี้เป็นอิทธิบาท
อันประกอบด้วยวิริยสมาธิและปธานสังขาร. . . อิทธิบาทอันประกอบด้วยวิริย
สมาธิและปธานสังขารนี้นั้นแล อันเราควรเจริญ . . . อิทธิบาทอันประกอบ
ด้วยวิริยสมาธิและปธานสังขารนี้นั้นแล อันเราเจริญแล้ว.
[1121] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสง
สว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมที่เราไม่เคยได้ฟังมาก่อนว่า นี้เป็นอิทธิบาท
อันประกอบด้วยจิตตสมาธิและปธานสังขาร. .. อิทธิบาทอันประกอบด้วยจิตต
สมาธิและปธานสังขารนี้นั้นแล อันเราควรเจริญ ... อิทธิบาทอันประกอบ
ด้วยจิตตสมาธิและปธานสังขารนี้นั้นแล อันเราเจริญแล้ว.
[1122] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุ ญาณ ปัญญา วิชชา แสง
สว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา ในธรรมที่เราไม่เคยได้ฟังมาก่อนว่า นี้เป็นอิทธิบาท
อันประกอบด้วยวิมังสาสมาธิและปธานสังขาร. . . อิทธิบาทอันประกอบด้วย

วิมังสาสมาธิและปธานสังขารนี้นั้นแล อันเราควรเจริญ . . . อิทธิบาทอัน
ประกอบด้วยวิมังสาสมาธิและปธานสังขารนี้นั้นแล อันเราเจริญแล้ว.
จบญาณสูตรที่ 9

10. เจติยสูตร



เจริญอิทธิบาท 4 ทำให้อายุยืน



[1123] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ อยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน
ใกล้กรุงเวสาลี ครั้งนั้นเป็นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงนุ่งแล้ว ทรงถือ
บาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังกรุงเวสาลี ครั้นเสด็จเที่ยวบิณฑบาต
แล้ว เวลาปัจฉาภัต เสด็จกลับจากบิณฑบาตแล้ว ตรัสเรียกท่านพระอานนท์
มาตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ เธอจงถือเอาผ้านิสีทนะ เราจะเข้าไปยังปาวาลเจดีย์
เพื่อพักผ่อนในตอนกลางวัน ท่านพระอานนท์ทูลรับพระดำรัสของพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าแล้ว ถือผ้านิสีทนะตามพระผู้มีพระภาคเจ้าไปทางเบื้องพระปฤษฏางค์.
[1124] ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าไปยังปาวาลเจดีย์
ประทับนั่งบนอาสนะที่ท่านพระอานนท์ปูถวาย ส่วนท่านพระอานนท์ถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้ว จึงนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัส
กะท่านพระอานนท์ว่า ดูก่อนอานนท์ กรุงเวสาลีเป็นที่น่ารื่นรมย์ อุเทนเจดีย์ก็
เป็นที่น่ารื่นรมย์ โคตมกเจดีย์ก็เป็นที่น่ารื่นรมย์ สัตตัมพเจดีย์ก็เป็นที่น่ารื่นรมย์
พหุปุตตกเจดีย์ก็เป็นที่น่ารื่นรมย์ สารันททเจดีย์ก็เป็นที่น่ารื่นรมย์ ปาวาลเจดีย์
ก็เป็นที่น่ารื่นรมย์ อิทธิบาท 4 อันผู้ใดผู้หนึ่งเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว